พระพุทธรูป พระนอน ปางไสยาสน์ หรือปางปรินิพพาน

พระพุทธรูป พระนอน ปางไสยาสน์

พระพุทธรูป พระนอน ปางไสยาสน์ “พระพุทธรูป” คือ รูปที่สร้างขึ้นแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อกราบไหว้บูชา ซึ่งแต่เดิมนั้นพุทธศาสนาไม่มีรูปเคารพแต่อย่างใด ศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ซึ่งมีมาก่อนศาสนาพุทธ ก็ไม่มีรูปเคารพเป็นเทวรูปเช่นกัน ผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ต้องการมีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพื่อระลึกถึงหรือเป็นสัญญลักษณ์ขององค์พระศาสดา และบอกกล่าวเล่าขานเรื่องราวของพระพุทธองค์ที่ทรงศึกษาค้นคว้าหาทางดับทุกข์ ทรงชี้แนะสอนสั่งผู้คนถึงการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นอยู่ที่ก่อให้เกิดความผาสุกในหมู่มวลมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในโลก แรกๆ ได้นำเอาสิ่งของอันได้แก่ ดิน น้ำ และกิ่งก้านใบโพธิ์ จากบริเวณสังเวชนียสถาน 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน), ตรัสรู้ (พุทธคยา), ปฐมเทศนา (สารนาถ) และปรินิพพาน (กุสินารา) เก็บมาไว้เป็นที่ระลึกบูชาพระพุทธเจ้า

ราวปีพ.. 500 ถึง 550 ได้มีการสร้างพระพุทธรูป โดยพระเจ้าเมนันเดอร์ที่ 1 หรือพระเจ้ามิลินท์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้ามาครอบครองแคว้นคันธารราฐ (ปัจจุบันเป็นดินแดนของอัฟกานิสถาน) จากนั้นพระองค์ก็แผ่อาณาเขตไปทั่วบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของชมพูทวีป และสร้างเมืองหลวงเป็นที่ประทับ ณ เมืองสากล หลังจากได้พบพระสงฆ์นามว่า นาคเสน จึงเกิดเรื่องราวแห่งการตั้งคำถามของพระเจ้ามิลินท์ต่อพระนาคเสน จนทำให้พระเจ้ามิลินท์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เป็นผลให้พระพุทธรูปองค์แรกเกิดขึ้น ซึ่งรูปแบบของพระพุทธรูปนี้ คือ “แบบคันธารราฐถอดแบบอย่างจากเทวรูปที่ชาวกรีกนับถือในยุโรป พระพุทธรูปแบบคันธารราฐจึงมีใบหน้าเหมือนฝรั่งชาวกรีก จีวรก็เป็นริ้วเหมือนเครื่องนุ่งห่มของเทวรูปกรีก

ปางปรินิพพาน พระพุทธรูป พระนอน ปางไสยาสน์

นับว่าการสร้างพระพุทธรูปนั้น เกิดขึ้นหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ปัจจุบันมีพระพุทธรูปมีหลายปางด้วยกัน และ RB-Thailand อยากนำเสนอ คือปางปรินิพพานหรือเรียกกันทั่วไปว่าพระนอน

ปางปรินิพพานเป็นชื่อเรียกของพระพุทธรูปลักษณะบรรทม (นอน) ตะแคงเบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย (หมอน) พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา

โดยความเชื่อและคตินิยมเกี่ยวกับพระนอนสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการปรินิพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อเป็นพุทธานุสสติให้พุทธศาสนิกชนได้ระลึกถึงพระพุทธองค์ และเพื่อเตือนใจให้พุทธศาสนิกชนดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท สังขารทั้งหลายเป็นสิ่งไม่เที่ยง แม้กระทั่งพระพุทธองค์ก็ยังเลี่ยงไม่พ้น

และปางปรินิพพานยังเป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิดของคนเกิดวันอังคาร ตามพุทธประวัติกล่าวว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับสีหไสยาสน์ เสด็จดับขันธปรินิพพานในวันอังคาร จึงถือเอาพระพุทธไสยาสน์ เป็นพระประจำวันอังคาร และดาวอังคารถือเป็นดาวพิฆาตหรือดาวมรณะ อีกทั้งยังเป็นดาวเกี่ยวกับสงคราม และอุบัติเหตุ พระปางนี้จึงเสมือนเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงการดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท และมีสติ

คนโบราณยังเชื่ออีกว่า คนเกิดวันอังคาร เป็นคนใจร้อน ให้นอนเสียบ้าง จะได้ใจเย็นดั่งพระนอน ในส่วนที่กล่าวถึงการโปรดอสุรินทราหูนั้น น่าจะหมายถึงการขจัดความมัวเมาลุ่มหลง เห็นผิดเป็นชอบ อันเป็นลักษณะของพระราหู ดังนั้น ผู้ที่เกิดวันอังคาร หากได้ไปกราบไหว้ขอพร จะถือเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่าจะโชคดี พ้นภัย เป็นการสะเดาะเคราะห์ ช่วยให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี

ทำเนียบวัดพระนอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *