ทศชาติชาดก ชาติที่ 3 พระสุวรรณสาม เมตตาบารมี

ทศชาติชาดก ชาติที่ 3 พระสุวรรณสาม

ทศชาติชาดก ชาติที่ 3 พระสุวรรณสาม แสดงถึงการบำเพ็ญเมตตาบารมี คือ ความไมตรี ความปรารถนาให้ทั้งปวงเป็นสุขทั่วหน้า ในชาตินี้พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นสุวรรณสาม ผู้มีผิวพรรณงดงามราวทองคำบริสุทธิ์ เป็นบุตรชายของ ทุกูลดาบสและปาริกาดาบสสินี สุวรรณสามมีบรรดาสัตว์เป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่ของสุวรรณสามนั้นได้ออกบวชบำเพ็ญธรรมอยู่ในป่า และด้วยความเมตตาอันมั่นคงของทั้งสอง ทำให้สุวรรณสามจดจำสิ่งที่ทั้งสองได้ปฏิบัติ บำเพ็ญธรรม มีเมตตาไมตรีจิต ไม่ทำร้ายสัตว์น้อยใหญ่ ต่างหากินอยู่ร่วมกันด้วยความสุข

ผู้ยิ่งด้วยเมตตา ทศชาติชาดก ชาติที่ 3 พระสุวรรณสาม

เมื่อสุวรรณสาม อายุ 16 ปี พ่อและแม่ของสุวรรณสามออกไปหาผลไม้ในป่า ได้ถูกงูที่อาศัยอยู่ในจอมปลวกพ่นพิษใส่จนนัยน์ตาบอดสนิทจึงกลับศาลาไม่ได้ สุวรรณสามออกตามหาก็พบทั้งสองวนเวียนอยู่ข้างจอมปลวก สุวรรณสามทราบเรื่องก็ร้องไห้ แล้วก็หัวเราะ เหตุที่ร้องไห้เพราะเสียใจที่พ่อแม่นัยน์ตาบอด แต่ก็หัวเราะเพราะดีใจที่จะได้ปรนนิบัติดูแลตอบแทนพระคุณทั้งสองที่เลี้ยงดูมา

นับจากนั้นสุวรรณสามก็ได้ปรนนิบัติดูแลพ่อแม่เป็นอย่างดีเรื่อยมา ทุกๆ วันสุวรรณสามจะไปตักน้ำมาไว้สำหรับให้พ่อแม่ได้ดื่มได้ใช้ และไปหาผลไม้ในป่ามาเป็นอาหาร เวลาที่สุวรรณสามออกป่าหาผลไม้ บรรดาสัตว์ต่างพากันเดินตามสุวรรณสามไปด้วยความไว้ใจ เพราะสุวรรณสามเป็นผู้มีเมตตาจิต ไม่เคยทำอันตรายฝูงสัตว์

วันหนึ่งสุวรรณสามไปตักน้ำในแม่น้ำ ขณะนั้นพระเจ้ากบิลยักขราช พระราชาแห่งเมืองพาราณสี ทรงดักซุ่มรอล่าสัตว์ ทอดพระเนตรเห็นสุวรรณสาม ก็ทรงสงสัยว่าเป็นมนุษย์หรือเทวดา ทำไมถึงได้เต็มไปด้วยฝูงสัตว์ จึงทรงยิงธนูใส่สุวรรณสามเพื่อไม่ให้หนีายไป สุวรรณสามล้มลงกับพื้นแต่ยังไม่ถึงตาย เอ่ยว่าเนื้อของตนกินไม่ได้ หนังก็เอาไปทำอะไรไม่ได้ ทำไมจึงต้องยิงตน

พระราชาได้ยินก็ยิ่งแปลกพระทัย จึงออกจากที่ซุ่มไปตรัสถามว่าสุวรรณสามเป็นผู้ใด มาทำอะไรในป่า สุวรรณสามตอบตามความจริงว่าเป็นบุตรของดาบส อาศัยอยู่ในศาลาในป่านี้กับพ่อแม่ซึ่งตาบอดทั้งสอง และทำหน้าที่ปรนนิบัติพ่อแม่ดูแลหาน้ำและอาหาร เมื่อตนถูกยิงเช่นนี้ ก็จะไม่มีใครดูแลปรนนิบัติทั้งสองอีกต่อไป

พระราชาทรงเสียใจยิ่งนัก จึงตรัสรับปากกับสุวรรณสามว่าจะรับดูแลปรนนิบัติพ่อแม่ของสุวรรณสามไปตลอดชีวิต หลังจากสุวรรณสามสั่งความฝากพระราชาไปถึงพ่อแม่ก็ได้สลบไปด้วยพิษธนู พระราชาทรงรำลึกถึงกรรมอันหนักที่ได้ก่อขึ้นในครั้งนี้ และจะปฏิบัติตามวาจาที่สัญญาไว้กับสุวรรณสาม คือปรนนิบัติดูแลพ่อแม่สุวรรณสามไปตลอดชีวิต

อธิษฐานคุณความดี เดชแห่งเมตตาและกตัญญู

พระเจ้ากบิลยักขราชทรงนำน้ำที่สุวรรณสามได้ตักไว้ไปให้พ่อแม่ของสุวรรณสาม แต่ทุกูลดาบสนั้นรู้ได้ว่าผู้ที่นำน้ำมานั้นไม่ใช่บุตรของตน พระราชาจึงทรงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยความเศร้าโศกเสียพระทัย ดาบสทั้งสองได้ฟังก็เสียใจยิ่งนัก ทูลขอร้องให้พระราชาทรงนำพวกตนไปหาร่างของสุวรรณสาม

เมื่อไปถึงทั้งคู่ต่างคร่ำครวญกับร่างของบุตรอย่างน่าเวทนา จากนั้นทุกูลดาบสและปาริกาดาบสสินีได้อธิษฐานเอ่ยคุณความดีของสุวรรณสาม รวมกับแรงอธิษฐานของนางเทพธิดาพสุนธรี ผู้เป็นมารดาในอดีตชาติของสุวรรณสาม ทำให้สุวรรณสามฟื้นขึ้นมาและไม่มีบาดแผลใดๆ อีกทั้งดวงตาของดาบสทั้งสองก็กลับมามองเห็นได้ดังเดิม

พระราชาทรงพิศวงใจ และตรัสปฏิญญาณ ขอขมาโทษที่ได้กระทำให้สุวรรณสามเดือดร้อน แล้วพระองค์ก็เสด็จกลับพาราณสี ทรงปฏิบัติปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิธราชธรรมสืบไป ฝ่ายสุวรรณสามก็เลี้ยงดูปรนนิบัติพ่อแม่ บำเพ็ญเพียรในทางธรรม เมื่อตายไปก็ได้ไปเกิดในพรหมโลกกับพ่อแม่ ด้วยกุศลกรรมที่กระทำมา

สาระสำคัญ  คติธรรม พระสุวรรณสามชาดก

ความมีเมตตากรุณา แผ่ไมตรีจิตปรารถนาต่อมนุษย์และสัตว์ทั้งปวงเป็นสุข โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ เพศ วัย หรือเผ่าพันธ์ุใดๆ สัตว์โลกคือเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น ธรรมนั้นจะเป็นเกราะทำให้ชีวิตสุขสงบได้โดยไม่ถูกผู้ใดปองร้าย

และความกตัญญูกตเวที อันเป็นกุศลกรรมดีที่บุตรพึงกระทำต่อบิดามารดา

ทศชาติชาดก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *