วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน จังหวัดเชียงใหม่

วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน

วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน จังหวัดเชียงใหม่ ตำนานพระเจ้าเลียบโลก เป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่สร้างมานานหลายร้อยปี เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งในเชียงใหม่พระนอนหนองผึ้งหรือพระพุทธรูปป้านปิงเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ขนาดความยาว 19 เมตร เป็นพุทธศิลปแบบศิลปะล้านนายุคต้นถึงยุคกลาง

วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน
วัดพระนอนหนองผึ้ง

ประวัติตามตำนาน วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน

ประวัติวัดพระนอนหนองผึ้ง ตามตำนานกล่าวว่า ในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าลัวะ ต่อมาประมาณปี พ.. 1200 พระมหาเถระเจ้า จำนวน 5 รูป ซึ่งติดตามพระนางเจ้าจามเทวี มาครองนครหริภุญชัย ตามคำเชิญของ พระสุเทวฤาษี ได้จารึกและเทศนาถึงหมู่บ้านแห่งนี้

พวกลัวะ เกิดความเลื่อมใสศรัทธาปสาทะ จึงนำเอารังผึ้งจากต้นมะขามริมสระน้ำใกล้หมู่บ้านมาถวายพร้อมสร้างพระอารามให้อยู่จำพรรษา และนำพระบรมสารีริกธาตุใส่กระบอกไม้รวก บรรจุผอบทองคำบรรจุในหลุมลึก 22 ศอก ขนานนามว่าวัดหนองผึ้งวัดนี้ได้ดำรงต่อมาหลายชั่วอายุคน และได้ร้างไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนลุปี 1836 มีมหาเถระเจ้า พร้อมเศรษฐี และบริวารจากเมืองเชียงแสนได้บูรณะเจดีย์ขึ้นใหม่ และสร้างพระพุทธปางไสยาสน์ (พระนอน) ยาว 19 เมตร 38 ศอก แล้วสร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย (พระเจ้าทันใจ) 1 องค์ หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ

ต่อมาลุปี พ.. 1838 พระเจ้าเม็งรายตีนครหริภุญชัยได้ และสร้างเมืองใหม่ทิศเหนือ นครหริภุญชัย เรียกว่านครกุมกามได้รวมเอาวัดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนครกุมกามด้วย พระเจ้าเม็งรายได้ทรงอุปถัมภ์และถือเป็นวัดสำคัญในนครกุมกาม มีประเพณีนมัสการสรงน้ำปิดทองพระนอนในวันเพ็ญเดือนแปดเหนือ ทุกปีสืบตลอดมาจนทุกวันนี้

วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน
ประวัติวัดพระนอนหนองผึ้ง

อาคารเสนาสนะสำคัญภายในวัดพระนอนหนองผึ้ง

แต่เดิมวัดพระนอนหนองผึ้ง เป็นวัดในสมัยเวียงกุมกามเชียงใหม่ หรือบางทีอาจจะมีสภาพเป็นวัดที่ดั้งเดิมอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่สมัยหริภุญชัย และวัดได้รับการดูแลซ่อมแซมเรื่อยมา เช่น องค์พระบรมธาตุเจดีย์ และอาคารประกอบแวดล้อมอื่นๆ

พระนอนหนองผึ้ง หรือพระพุทธไสยาสน์ ถือเป็นหลักฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ของเวียงกุมกาม ที่ปรากฏหลักฐานเหลืออยู่เพียงองค์เดียว ขนาดความยาว 19 เมตร เป็นพุทธศิลปแบบศิลปะล้านนายุคต้นถึงยุคกลาง ราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 โดยพระนอนหนองผึ้งหันพระเศียรไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเหตุที่ได้อีกชื่อหนึ่งว่า พระนอนป้านปิง

พระบรมธาตุเจดีย์ ตั้งอยู่ระหว่างวิหารพระนอน และอุโบสถ ลักษณะเป็นเจดีย์ขนาดเล็กทรงระฆังที่ได้รับการซ่อมปฏิสังขรณ์เมื่อไม่นานมานี้ ส่วนฐานเป็นแบบเขียงตอนล่าง เหนือขึ้นมาเป็นชั้นปัทม์ย่อเก็จรองรับส่วนมาลัยเถาแบบย่อเก็จแปลง องค์ระฆังขนาดเล็กค่อนข้างใหญ่ ไม่มีส่วนบัลลังก์ ปล้องไฉนทรงกรวยคว่ำแต่ละปล้องต้องมีขนาดใหญ่ ต่อเหนือขึ้นไปด้วยชั้นบัวกลุ่มแบบพม่า และส่วนปลียอดประดับฉัตรโลหะ

พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หลังคาหน้าจั่วมีปีกนก 2 ข้างสร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ด้านหน้ามีสิงห์ปูนปั้นอยู่ 1 คู่ ส่วนซุ้มโขงประตูทางเข้าปรากฏลวดลายปูนปั้นในศิลปะพม่า ที่ได้รับการซ่อมแซมบูรณะในระยะเวลาใกล้เคียงกับสิ่งก่อสร้าง ที่มีอิทธิพลพม่าระยะรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา ดังเช่นที่พบในสิ่งก่อสร้างต่างๆ ของวัดช้างค้ำ วัดเจดีย์เหลี่ยม วัดศรีบุญเรือง วัดสันป่าเลียง และวัดเสาหิน

พระวิหาร ตั้งห่างออกไปทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ สร้างหันหน้าไปทางตะวันออก มีรูปทรงโครงสร้างอิทธิพลศิลปะจากภาคกลาง ที่มีส่วนจั่วหลังคาฐานกว้าง ทำตัวบันไดรูปมกรคายนาคปูนปั้นปิดทองและเขียนสี คล้ายกับที่พบในเขตเมืองเชียงใหม่ทั่วๆ ไป มีตัวอย่างสวยงามที่เป็นนาคบันไดของวิหารหลวง วัดเจดีย์หลวง (สร้างขึ้นใหม่ในสมัยเจ้าหลวงแก้วนวรัฐ เมื่อราว 100 กว่าปีที่ผ่านมา)

วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน
พระนอนหนองผึ้ง
วัดพระนอนหนองผึ้ง วัดพระนอน
พระบรมธาตุเจดีย์
อุโบสถ
พระอุโบสถ
วิหาร
พระวิหาร

ปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ พระนอนหนองผึ้ง 

วัดพระนอนหนองผึ้ง ถือเป็นปูชนียสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 6 ถนนสายเชียงใหม่ลำพูน ท้องที่ 205 หมู่ 4 บ้านหนองผึ้ง ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ และมีประเพณีนมัสการสรงน้ำปิดทองพระนอนในวันเพ็ญเดือนแปดเหนือของทุกปี พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าสักการะและเยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าเข้าชม เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 .

ทำเนียบวัดพระนอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *